สัญญา
เป็นนิติกรรมที่เกิดขึ้นจากการตกลงระหว่างบุคคลตั้งแต่
2 ฝ่ายขึ้นไปทำให้เกิดมีความเป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้
มีหน้าที่ต่อกัน
ประเภทของสัญญา
1. สัญญาต่างตอบแทนกับสัญญาไม่ต่างตอบแทน
2. สัญญามีค่าตอบแทนกับสัญญาไม่มีค่าตอบแทน
3. สัญญาประธานกับสัญญาอุปกรณ์
4. สัญญาเพื่อประโยชน์ของผู้คนภายนอก
5. เอกเทศสัญญากับสัญญาไม่มีชื่อ
สิทธิในการบอกเลิกสัญญา
1. สิทธิบอกเลิกสัญญาโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
2. สิทธิบอกเลิกสัญญาโดยข้อสัญญา
ผลของการบอกเลิกสัญญา
1. คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะเดิม
2. การเลิกสัญญาไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะเรียกเอาค่าเสียหาย
มาตราที่น่าสนใจ
มาตรา 359
ในสัญญาต่างตอบแทนนั้นคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งจะไม่ยอมรับชำระหนี้จนกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะชำระหนี้หรือ ขอปฏิบัติการชำระหนี้ก็ได้ แต่ความข้อนี้มิให้ใช้บังคับ
ถ้าหนี้ของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งยังไม่ถึงกำหนด
มาตรา 370 ถ้าสัญญาต่างตอบแทนมีวัตถุที่ประสงค์เป็นการก่อให้เกิดหรือโอนทรัพยสิทธิในทรัพย์เฉพาะสิ่ง
และทรัพย์นั้นสูญหรือเสียหายไปด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษลูกหนี้มิได้
การสูญหรือเสียหายนั้นตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้
สัญญาขายฝาก
สัญญาซึ่งบุคคลฝ่ายหนึ่งเรียกว่า“ผู้ขายฝาก”โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีกฝ่ายหนึ่งเรียกว่า
“ผู้ซื้อฝาก” โดยผู้ซื้อฝากตกลง
จะใช้ราคาทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ขายฝากและมีข้อตกลงเพิ่มเติมว่าผู้ขาย ฝากอาจไถ่ทรัพย์สินนั้นคืนได้
ลักษณะของสัญญาขายฝาก
1. เป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด
2. มีข้อตกลงให้ผู้ขายฝากอาจไถ่ทรัพย์สินนั้นคืนได้
แบบของสัญญาขายฝาก
ถ้าเป็นการขายฝากทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ด้วย มิฉะนั้นสัญญาจะตรงเป็นโมฆะ
ระยะเวลาในการใช้สิทธิไถ่คืน
ในสัญญาขายฝาก
คู่สัญญาจะตกลงกันกำหนดระยะเวลาไถ่ไว้ นานเท่าไหร่ก็ได้
แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมายที่วางไว้ ดังนี้
1. ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์นั้น
คู่กรณีจะกำหนดระยะเวลาไถ่คืน ไว้เกินกว่า 10 ปีไม่ได้
2. ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์
คู่กรณีจะกำหนดระยะเวลาไถ่คืนไว้เกิน กว่า 3 ปีไม่ได้
3. ถ้าผู้กรณีกำหนดระยะเวลาไถ่คืนไว้เกินกว่า
10 ปีหรือ 3 ปี ก็ ต้องลดลงมาเหลือ 10
ปีหรือ 3 ปีตามประเภทของทรัพย์สินไถ่
ราคาไถ่ถอนหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ราคาซื้อคืน” ซึ่งจะต้อง เป็นเงินตราเท่านั้น
มาตราที่น่าสนใจ
มาตรา 491
อันว่าขายฝากนั้นคือสัญญาซื้อขายซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปยังผู้ซื้อ
โดยมีข้อตกลงกันว่าผู้ขายอาจไถ่ทรัพย์นั้น คืนได้
มาตรา 494 ห้ามมิให้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินซึ่งขายฝากเมื่อพ้น เวลาดังจะกล่าวต่อไปนี้
มาตรา 494 ห้ามมิให้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินซึ่งขายฝากเมื่อพ้น เวลาดังจะกล่าวต่อไปนี้
- ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์
กำหนดสิบปีนับแต่เวลาซื้อขาย
- ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ กำหนดสามปีนับแต่เวลาซื้อขาย
มาตรา 495 ถ้าในสัญญามีกำหนดเวลาไถ่เกินไปกว่านั้น ให้
ลดลงมาเป็นสิบปีและสามปีตามประเภททรัพย์ - ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ กำหนดสามปีนับแต่เวลาซื้อขาย
มาตรา 496 กำหนดเวลาไถ่นั้นอาจทำสัญญาขยายกำหนดเวลา ไถ่ได้ แต่กำหนดเวลาไถ่รวมกันทั้งหมด ถ้าเกินกำหนดเวลาตาม
มาตรา 494 ให้ลดลงมาเป็นกำหนดเวลาตามมาตรา 494
มาตรา 499 สินไถ่นั้น ถ้าไม่ได้กำหนดกันไว้ว่าเท่าใด ให้ไถ่ ตามราคาที่ขายฝาก
ถ้าปรากฎในเวลาไถ่ว่าสินไถ่หรือราคาขายฝากที่กำหนดไว้สูง กว่าราคาขายฝากที่แท้จริงเกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ให้ไถ่ได้ตามราคา ที่ขายฝากที่แท้จริง รวมประโยชน์ตอบแทนร้อยละ 15 ต่อปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น